5 วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริง ให้บ้านสวยและยืดอายุไม้ไปนาน ๆ

วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริง

พื้นไม้จริงเป็นวัสดุที่ช่วยเติมความอบอุ่นและความหรูแบบมีชีวิตให้บ้านได้อย่างชัดเจน ลายไม้และผิวสัมผัสตามธรรมชาติทำให้แต่ละพื้นที่ดูมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือคลาสสิก อย่างไรก็ตาม ไม้จริงเป็นวัสดุธรรมชาติที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง หากใช้วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงผิดวิธีอาจทำให้ผิวไม้หมอง เกิดรอย หรือสะสมความชื้นจนกระทบอายุการใช้งานได้ 

บทความนี้เราจะพาไปรู้จัก 5 วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และทำตามได้จริง เพื่อให้พื้นบ้านสวยนาน พร้อมยืดอายุไม้ไปได้อีกหลายปี

ปัญหาคราบบนพื้นไม้ เกิดจากอะไร

คราบบนพื้นไม้

ก่อนจะไปถึงวิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริง ควรทำความเข้าใจก่อนว่าคราบบนพื้นไม้ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลสะสมจากพฤติกรรมการใช้งานและสภาพแวดล้อมรอบบ้าน การรู้ต้นตอจะช่วยให้เราเลือกวิธีเช็ด ล้าง หรือป้องกันได้ตรงจุดมากขึ้น โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้

  • น้ำที่หกหรือความชื้น

ไม้จริงไวต่อความชื้นเป็นธรรมชาติ ถ้ามีน้ำหกแล้วปล่อยทิ้งไว้ น้ำจะซึมตามร่องไม้หรือผิวเคลือบ ทำให้เกิดคราบด่าง คราบวงน้ำ หรือในบางกรณีอาจทำให้ไม้บวม โก่ง หรือสีเข้มผิดปกติได้ ยิ่งบริเวณใกล้ประตู ห้องน้ำ หรือจุดที่โดนน้ำบ่อย จะยิ่งมีความเสี่ยงยิ่งสูง

  • การเดินเหยียบย่ำบนพื้นไม้

ฝุ่น เม็ดทราย หรือเศษดินเล็ก ๆ ที่ติดมากับรองเท้าคือศัตรูตัวจริงของพื้นไม้ เพราะจะทำหน้าที่เหมือนกระดาษทรายขูดผิวไม้ จนเกิดรอยและคราบหมองเป็นทาง โดยเฉพาะบริเวณทางเดินหลัก หน้าห้อง หรือจุดที่คนเดินผ่านบ่อย ๆ

  • แสงแดด

แสงแดดไม่ได้ทำให้เกิดคราบเปื้อน แต่ทำให้สีไม้เปลี่ยนหรือซีดไม่สม่ำเสมอ เมื่อเวลาผ่านไปจะเห็นเป็นรอยด่างของเฉดสี เช่น จุดที่โดนแดดจัดจะอ่อนกว่า ส่วนที่มีพรมหรือเฟอร์นิเจอร์บังจะเข้มกว่า ทำให้พื้นดูไม่เสมอกันคล้ายคราบถาวร

  • สัตว์เลี้ยง

บ้านที่มีสุนัข แมว หรือสัวต์เลี้ยงอื่น ๆ มักเจอคราบเฉพาะทาง เช่น คราบปัสสาวะ คราบน้ำลาย หรือรอยเล็บข่วน คราบบางชนิดมีความเป็นกรดหรือด่างอ่อน ๆ ทำให้ผิวเคลือบเสื่อมและเกิดสีเพี้ยน หากเช็ดไม่ทันอาจซึมเข้าเนื้อไม้จนทิ้งรอยไว้ยา

  • การทำอาหารหรือทานอาหารบนพื้นไม้

คราบมัน น้ำแกง กาแฟ น้ำหวาน หรือซอสต่าง ๆ เป็นคราบที่เจอได้บ่อย โดยเฉพาะพื้นที่เชื่อมครัวหรือห้องทานข้าว คราบกลุ่มนี้ถ้าทิ้งไว้จะเหนียว จับฝุ่นง่าย และทำให้พื้นดูหมองเร็ว เครื่องดื่มบางอย่างเช่นกาแฟหรือไวน์อาจทิ้งสีติดผิวไม้ได้

  • การใช้อุปกรณ์หรือน้ำยาทำความสะอาดผิดประเภท

สาเหตุที่ทำให้พื้นไม้ค่อย ๆ พัง เช่น การใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน (กรด/ด่างแรง) น้ำยาถูพื้นทั่วไปที่ทิ้งสารตกค้าง หรือการใช้ผ้าชุบน้ำเปียกเกินไป รวมถึงแปรงแข็ง ๆ ที่ขูดผิวเคลือบ เมื่อผิวไม้เสียสมดุล คราบจะเกาะง่ายขึ้น และสีพื้นจะดรอปลงชัดเจน

ดูแบบพื้นไม้สวย ๆ จาก Champaca ได้ที่: 7 วิธีปูพื้นไม้สวยๆ มีสไตล์ ช่วยเพิ่มมิติและความลงตัวให้กับบ้านของคุณ

ยืดอายุพื้นไม้ให้ยาวนาน ด้วย 5 วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริง

ไม่ว่าจะเป็น ไม้แดง ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้วอลนัท ความสวยงามและระยะเวลาการใช้งาน ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการดูแลมากกว่าการทำความสะอาดครั้งใหญ่เป็นครั้งคราว เพราะไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ไวต่อรอยขีดข่วน ความชื้น และคราบสะสม หากเริ่มดูแลถูกวิธีตั้งแต่แรก พื้นจะคงความเงา สีสวย และแข็งแรงไปได้อีกหลายปี ต่อไปนี้คือ 5 วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงแบบพื้นฐานที่ทำได้ไม่ยาก แต่ได้ผลมากในระยะยาว

1. ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ

ฝุ่น ผงทราย และเศษสิ่งสกปรกเล็ก ๆ ที่มองแทบไม่เห็น เป็นตัวการหลักที่ทำให้พื้นไม้เกิดรอยขีดข่วนสะสม ยิ่งบ้านที่มีคนเดินผ่านบ่อยหรือเลี้ยงสัตว์ จะยิ่งเกิดรอยง่าย ถ้าปล่อยให้ฝุ่นจับตัวเป็นชั้น พื้นจะหมองไวและผิวเคลือบสึกเร็วกว่าปกติ

วิธีทำ

กวาดหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง (หรือทุกวันในจุดทางเดินหลัก)

  • ใช้ไม้กวาดขนนุ่ม กวาดตามแนวลายไม้เพื่อลดการเสียดสี
  • ถ้าใช้เครื่องดูดฝุ่น เลือกหัวดูดที่เป็นแปรงนุ่มหรือหัวสำหรับพื้นไม้โดยเฉพาะ แล้วไล่ดูดจากมุมห้องออกมาด้านนอกให้ทั่ว

ข้อควรระวัง

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแปรงแข็งหรือถุงดูดที่มีขอบแข็งที่อาจทำให้พื้นไม้ขีดข่วน

2. ทำความสะอาดพื้นไม้ด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ

เช็ดพื้นไม้

พื้นไม้จริงไม่ถูกกับน้ำที่มากเกินไป เพราะความชื้นสามารถซึมผ่านร่องไม้หรือผิวเคลือบได้ เมื่อสะสมจะทำให้ไม้บวม ขยายตัว เกิดการห่อ(ทิศทางขนานกับแนวเสี้ยน) หรือการทิ้งคราบวงน้ำและคราบด่างบนผิวไม้ ยิ่งเช็ดผิดวิธีบ่อย ๆ ผิวเคลือบจะเสื่อมเร็วและพื้นดูหมองก่อนเวลา

วิธีทำ

  • ใช้ผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ ชุบน้ำสะอาดแล้วบิดให้หมาดที่สุด
  • เช็ดตามแนวลายไม้ จะช่วยเก็บฝุ่นละเอียดและลดโอกาสเกิดรอยปาด
  • หากมีคราบติดแน่น ให้ใช้ผ้าหมาดเช็ดซ้ำเบา ๆ แทนการถูแรง ๆ เพื่อไม่ให้ผิวไม้สึก

ข้อควรระวัง

  • ห้ามใช้ผ้าเปียกแฉะเด็ดขาด และไม่ควรเทน้ำราดพื้นโดยตรง
  • อย่าปล่อยให้มีแอ่งน้ำหรือความชื้นขังบนพื้น หากเผลอทำหกต้องรีบเช็ดให้แห้งทันที
  • หลังเช็ดเสร็จ หากรู้สึกว่าพื้นยังชื้น ให้เปิดหน้าต่างหรือพัดลมช่วยระบายความชื้น เพื่อป้องกันไม้ดูดน้ำสะสมในระยะยาว

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม้ที่เหมาะสม

พื้นไม้จริงมีชั้นเคลือบผิวที่ช่วยป้องกันรอยและความชื้น หากใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปที่มีสารเคมีแรง อาจทำลายชั้นเคลือบให้บางลง เกิดผิวด้าน สีซีดไม่สม่ำเสมอ หรือทิ้งคราบเหนียวที่ดึงฝุ่นให้เกาะง่ายขึ้นระยะยาว พื้นไม้อาจดูหมองทั้งที่ทำความสะอาดบ่อย

วิธีทำ

  • เลือกผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับพื้นไม้จริง โดยดูฉลากว่าเป็นสูตรอ่อนโยนและสมดุล pH (pH-balanced)
  • ควรเป็นน้ำยาที่ปราศจากแอลกอฮอล์ สารฟอกขาว หรือสารกัดผิวไม้
  • ใช้ตามอัตราส่วนที่ระบุบนฉลาก แล้วเช็ดด้วยผ้าหมาดตามแนวลายไม้
  • หากไม่แน่ใจ ควรทดสอบในมุมเล็ก ๆ ก่อน เพื่อดูว่าพื้นไม่เปลี่ยนสีหรือเกิดคราบ

4. ขัดเงาพื้นไม้เป็นประจำ

​​การขัดเงาเป็นเหมือนการเติมเกราะบาง ๆ ให้พื้นไม้ ช่วยรักษาความเงางาม ลดการเกิดรอยขีดข่วน และทำให้ผิวไม้ดูใหม่อยู่เสมอ แต่จุดสำคัญคือ พื้นไม้ในบ้านไทยมักมีหลายระบบเคลือบผิว เช่น เคลือบ UV, เคลือบน้ำมัน, เคลือบแลกเกอร์ และอีกมากมายแต่ละแบบมีวิธีดูแลต่างกัน หากขัดเงาไม่ตรงกับชนิดผิวเคลือบ อาจทำให้พื้นด้าน เป็นคราบ หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมได้

วิธีทำ

  1. ตรวจสอบก่อนว่าพื้นไม้เป็นผิวเคลือบประเภทไหน (ดูจากคู่มือบ้าน/ผู้ติดตั้ง หรือสังเกตลักษณะผิว)
  2. เลือกผลิตภัณฑ์ให้ “ตรงระบบเคลือบ” เช่น
  • ผิว UV → ใช้น้ำยาทำความสะอาด/บำรุงที่ระบุว่าสำหรับพื้นเคลือบ UV โดยเฉพาะ
  • ผิวน้ำมัน (Oil Finish) → ใช้น้ำมันบำรุงหรือ Maintenance Oil เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้เนื้อไม้
  • ผิวแลกเกอร์/PU → ใช้น้ำยาขัดเงาหรือขี้ผึ้งสำหรับพื้นไม้เคลือบฟิล์ม
  1. เช็ดหรือเคลือบให้ทั่วพื้นตามคำแนะนำบนฉลาก แล้วใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็ดซ้ำเบา ๆ เพื่อเก็บส่วนเกินและช่วยให้ผิวเรียบเงา

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรขัดเงาบ่อยเกินไป เพราะเสี่ยงเกิดการสะสมของสารเคลือบ ทำให้พื้นลื่นหรือเป็นคราบหม่นเป็นดวง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภท เช่น เอาน้ำยาสำหรับผิวน้ำมันไปใช้กับผิว UV หรือใช้ขี้ผึ้งกับผิวที่ไม่รองรับ เพราะอาจเกิดคราบลื่น คราบด้าน หรือทำให้ผิวหน้าเสื่อมเร็ว
  • ถ้าไม่แน่ใจ ควรทดสอบในมุมเล็ก ๆ ก่อนทุกครั้ง เพื่อดูความเข้ากันของผลิตภัณฑ์กับผิวไม้จริง

5. ดูแลรักษาความชื้นของพื้นไม้

Wagner Meters Floor Sentry

ไม้จริงจะดูดและคลายความชื้นตามสภาพอากาศอยู่เสมอ(หากความชื้นในอากาศสูงกว่าความชื้นไม้ ไม้จะดูดความชื้นเข้ามา หากความชื้นในอากาศต่ำกว่าความชื้นไม้ ไม้จะคลายความชื้นออก)  ถ้าความชื้นสูงเกินไป ไม้จะดูดความชื้นจนบวม ขยายตัว และอาจโก่งหรือดันกันตามร่อง แต่ถ้าห้องแห้งเกินไป ไม้จะหดตัวจนเกิดร่อง แยก หรือแตกร้าวได้ ปัญหาเหล่านี้มักค่อย ๆ เกิดแบบไม่ทันสังเกต และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พื้นไม้เสียทรงก่อนอายุการใช้งานจริง

วิธีทำ

  • รักษาความชื้นในห้องให้อยู่ระดับเหมาะสมแบบสม่ำเสมอ ไม่แกว่งขึ้นลงแรง
  • ใช้เครื่องปรับอากาศช่วยลดความชื้นช่วงหน้าฝน หรือพื้นที่ที่อับชื้น
  • ถ้าบ้านเปิดแอร์บ่อยจนแห้งมาก สามารถใช้เครื่องทำความชื้นช่วยเติมสมดุลได้ แต่ควรตั้งค่าให้พอดี ไม่ทำให้ไอน้ำกระจุกตัวบนพื้น
  • สำหรับคนที่อยากดูแลแบบมืออาชีพมากขึ้น สามารถติดตั้งตัววัดความชื้นใต้พื้น เช่น Wagner Meters Floor Sentry เพื่อเฝ้าระวังระดับความชื้นจริงของโครงสร้างพื้นแบบต่อเนื่อง ช่วยป้องกันปัญหาก่อนจะลุกลาม

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการวางของที่มีน้ำขังบนพื้นไม้ เช่น กระถางแบบไม่มีจานรอง ถังน้ำ เครื่องดื่มที่มีหยดน้ำ เพราะความชื้นจะซึมลงไม้แบบจุดต่อจุด ทำให้เกิดคราบและอาการบวมเฉพาะจุด
  • หากใช้เครื่องทำความชื้น ไม่ควรหันไอพ่นลงพื้นไม้โดยตรง หรือวางใกล้พื้นมากเกินไป เพราะจะทำให้ความชื้นลงที่พื้นแบบไม่สม่ำเสมอ
  • จุดที่มักชื้นสะสม เช่น มุมห้อง ใต้พรม ใต้โซฟา ควรเปิดระบายอากาศหรือยกทำความสะอาดเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ความชื้นค้างอยู่ใต้ผิวไม้

แชร์ Tips ป้องกันคราบและรอยบนพื้นไม้

ป้องกันคราบและรอยบนพื้นไม้

นอกจากทำวิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงที่ถูกต้องแล้ว การกันไว้ก่อนจะช่วยลดทั้งคราบ รอยขีดข่วน และการสึกของผิวเคลือบได้เยอะมาก พื้นไม้จริงจะสวยนานขึ้นแบบเห็นผลชัด หากทำตามทริคง่าย ๆ ต่อไปนี้

  • ใช้พรมดักฝุ่นบริเวณทางเข้า-ทางเดินหลัก

พรมช่วยดักฝุ่น เม็ดทราย และเศษดินจากรองเท้าไม่ให้ถูกเหยียบลงบนพื้นไม้โดยตรง ลดรอยขีดข่วนสะสมได้ดี แนะนำให้วางพรมที่หน้าประตู ทางเชื่อมจากนอกบ้าน และจุดที่คนเดินผ่านบ่อย

  • ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์

ขาโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา หรือชั้นวางของ เป็นจุดที่สร้างรอยกดและรอยลากได้ง่ายที่สุด แผ่นรองจะช่วยกระจายแรงและลดการเสียดสีบนผิวไม้ โดยควรเลือกใช้แผ่นรองขาแบบยางหรือสักหลาด (felt) และเปลี่ยนเมื่อเริ่มสึกหรือหลุด

  • เมื่อมีคราบควรทำความสะอาดทันที

คราบน้ำ อาหาร หรือของเหลวต่าง ๆ ถ้าทิ้งไว้นานจะซึมเข้าผิวเคลือบหรือร่องไม้ กลายเป็นคราบวงหรือคราบสีติดถาวร หลักง่าย ๆ คือเห็นเมื่อไหร่ก็ใช้ผ้าหมาดเช็ดซ้ำแล้วเช็ดให้แห้งทันที

  • หลีกเลี่ยงการลากของหนักบนพื้นไม้

การลากตู้ เก้าอี้หนัก ๆ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จะทิ้งรอยยาวบนพื้น และบางครั้งทำให้ชั้นเคลือบหลุดเป็นแนว
ถ้าจำเป็นต้องย้ายของหนัก ควรยกขึ้น หรือใช้แผ่นรอง/รถเข็นช่วยแทนการลากตรง ๆ เพื่อป้องกันการเสียดสีที่อาจทำให้เกิดรอย

เพียงทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำควบคู่ไปกับการใช้วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงที่ถูกต้อง พื้นไม้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้ปาร์เก้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หรือพื้นไม้รูปแบบต่าง ๆ จะเกิดคราบยากขึ้น รอยน้อยลง และคงความสวยได้ยาวนานกว่าเดิม

FAQ

มีวิธีทําความสะอาดพื้นไม้เก่าอย่างไรบ้าง

เริ่มจากกวาด/ดูดฝุ่น แล้วเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดร่วมกับน้ำยาสำหรับพื้นไม้จริง เช็ดตามแนวลายไม้ ถ้าพื้นหมองหรือคราบฝังแน่นมาก ให้ทำ Deep Cleaning ด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง แต่ถ้าพื้นสึกหนัก สีซีดไม่สม่ำเสมอหรือมีรอยลึกทั่วพื้น ควรขัดผิวและทำสีใหม่ (Re-sanding & Refinishing) เพื่อให้พื้นกลับมาสวยเหมือนใหม่

มีวิธีถูพื้นไม้ให้เงาอย่างไรบ้าง

วิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริงควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาที่ออกแบบสำหรับพื้นไม้จริงโดยเฉพาะ แล้วเช็ดด้วยผ้านุ่มตามแนวลายไม้ให้ทั่ว จุดสำคัญคือควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับประเภทผิวเคลือบของพื้น (เช่น UV, น้ำมัน, แลกเกอร์/PU) เพื่อให้เงาสวยแบบไม่ทิ้งคราบและไม่ทำให้ผิวไม้เสื่อมเร็ว

น้ำยาถูพื้นไม้ ยี่ห้อไหนดี

หลักการเลือกง่าย ๆ คือควรเป็นน้ำยาสำหรับพื้นไม้โดยเฉพาะ สูตรอ่อนโยนที่มีค่า pH-balanced และไม่ทิ้งคราบตกค้าง ที่ทำให้พื้นด้านหรือเหนียว ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาถูพื้นไม้สูตรที่มีแอมโมเนีย กรด/ด่างแรง แอลกอฮอล์ หรือสารฟอกขาว เพราะเสี่ยงกัดชั้นเคลือบผิวไม้และทำให้สีไม้เพี้ยนระยะยาว

หากคุณลูกค้ากำลังมองหาน้ำยาถูพื้นไม้ Champaca ขอแนะนำน้ำยาทำความสะอาดพื้นไม้ BONA ที่เป็นสูตร pH neutral แห้งไว และไม่มีสารตกค้าง ออกแบบมาเพื่อพื้นไม้โดยตรง จึงปลอดภัยกับผิวเคลือบและช่วยรักษาความเงาของไม้ได้ดี

ตกแต่งให้บ้านของคุณอบอุ่นและมีสไตล์ จาก Champacawood

สรุป

หากทำตามวิธีทำความสะอาดพื้นไม้จริง 5 ข้อที่ให้ไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกวาด/ดูดฝุ่นสม่ำเสมอ เช็ดด้วยผ้าหมาด ใช้น้ำยาสำหรับพื้นไม้ ขัดเงาให้ตรงกับผิวเคลือบ และคุมความชื้นในบ้าน พื้นไม้ของคุณจะสวย เงา และทนกว่าการทำความสะอาดแบบผิด ๆ แน่นอน ยิ่งทำควบคู่กับทริคป้องกันคราบและรอยที่เราได้แนะนำไป ก็ช่วยให้พื้นไม้ดูใหม่ สะอาด ไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย

ที่ Champaca เรามีความเชี่ยวชาญในการเลือกไม้ ที่เหมาะสมกับทุกความต้องการ และช่วยให้คุณเลือกที่ไม่เพียงแค่เข้ากับสไตล์บ้าน แต่ยังสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้าน ทุกบริการจากเราพร้อมดูแลคุณลูกค้าด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาที่ตรงจุด การผลิตงานฝีมือที่มีมาตรฐานสูง และการติดตั้งที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการดูแลหลังการขาย เราให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อให้บ้านของคุณคงความ สวยงามและทนทานตามมาตรฐาน

บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณผ่านบ้าน… Champaca เราคัดสรรไม้จากธรรมชาติที่จะช่วยสร้างบ้านในฝันของคุณให้มีคุณภาพสูงสุดตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมบริการดูแลที่เชื่อถือได้ มั่นใจเมื่อเลือกซื้อไม้จากเรา